🌟 การตรวจวัดสารปรุงรสในขนมขบเคี้ยวด้วยเทคโนโลยี NIR
เทคโนโลยีอินฟราเรด(Near-Infrared หรือ NIR) เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการวัดค่าความชื้นและน้ำมันในอาหารอย่างรวดเร็วและแม่นยำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า NIR ยังสามารถใช้วัด ปริมาณสารปรุงรสและเครื่องเทศในขนมขบเคี้ยวได้แบบเรียลไทม์ ด้วย?
🎯 ทำไมต้องวัดสารปรุงรส?
สารปรุงรส เช่น รสชีส หัวหอม หรือกระเทียม มักถูกใส่ในขนมขบเคี้ยวในรูปแบบ:
- สลัด (slurry)
- ผงปรุงรส
- น้ำมันปรุงรส
ความสม่ำเสมอของการเติมรสเป็นสิ่งสำคัญ หากมีปัญหา เช่น หัวฉีดอุดตัน หรือปั๊มเสีย อาจทำให้เติมรสมากหรือน้อยเกินไป ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยตรง
สูตรการวัดแบบเดิม:
% การเคลือบ = 100 – (น้ำหนักผลิตภัณฑ์ก่อนเคลือบ / น้ำหนักผลิตภัณฑ์หลังเคลือบ) × 100
หากสัดส่วนของของแข็ง (solids) คงที่ ปริมาณสารปรุงรสจะเพิ่มหรือลดตามน้ำหนักการเคลือบ ซึ่ง NIR สามารถช่วยตรวจวัดได้แบบต่อเนื่อง
⚙️ NIR ทำงานอย่างไรกับการวัดสารปรุงรส
เครื่อง NIR วัด ปริมาณน้ำมัน ที่เคลือบบนผิวขนม หากสัดส่วนของของแข็งไม่เปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงของน้ำมันจะบ่งบอกถึงปริมาณของสารปรุงรสที่เปลี่ยนไป
จุดติดตั้งเครื่องวัด:
- บนสายพานหลังจากออกจากเครื่องปรุงรส (seasoning tumbler)
- หรือห่างออกไปเล็กน้อยจากจุดนั้น
✅ ควรมีความลึกของผลิตภัณฑ์บนสายพานอย่างน้อย 2 นิ้ว เพื่อให้ได้ค่าการวัดที่แม่นยำ
⚠️ หมายเหตุ: ไม่แนะนำให้ติดตั้งเครื่องวัดบนสายพานแบบถัง (bucket conveyor) เนื่องจากผลการวัดจะไม่นิ่ง
🧪 ข้อควรพิจารณาในการวัดด้วย NIR
NIR เป็นการวัดที่อิงกับพื้นผิว เพราะแสงทะลุเข้าไปได้เพียงไม่กี่มิลลิเมตร จึงต้องมั่นใจว่าพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ “แทนตัว” เนื้อทั้งหมดได้ดี
แนวทางการเลือกตำแหน่งวัด:
- เลือกจุดที่ผลิตภัณฑ์ถูกพลิกหรือตีผสมแล้ว เช่น หลังจากเครื่องปั่นปรุงรส
- หากผลิตภัณฑ์มีขนาดใหญ่หรือรูปร่างไม่สม่ำเสมอ อาจมี “เสียงรบกวนจากการวางตัวของผลิตภัณฑ์” ให้ใช้การหน่วง (damping) เพื่อลดผลกระทบ
- ให้แน่ใจว่าชั้นของขนมปิดทับสายพานทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการวัดค่าจากสายพาน
- ถ้าการไหลของผลิตภัณฑ์ไม่ต่อเนื่อง ควรใช้ระบบ gating เพื่อหยุดค่าการวัดเมื่อไม่มีผลิตภัณฑ์ผ่านหน้าเครื่อง
ปัจจัยแวดล้อม:
- ขนมที่ออกจากเตาหรือหม้อทอดมักจะมีไอน้ำ ทำให้ค่าการวัดไม่นิ่ง ควรใช้ air purge เป่าละอองไอน้ำออก
- บริเวณดังกล่าวอาจมีอุณหภูมิสูงเกิน 50°C ซึ่งส่งผลเสียต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จำเป็นต้องมี ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือระบบน้ำ
- ติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่มีแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องจักร
📏 การสอบเทียบ: ปัจจัยสำคัญของความแม่นยำ
การสอบเทียบ (Calibration) ที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้งาน NIR อย่างแม่นยำ
✅ การสอบเทียบ บนสายการผลิต (แนะนำ)
- เหมาะสำหรับขนมทอดหรืออบที่ยังร้อน เพราะเนื้อจะดูโปร่งแสงมากกว่าตอนเย็น
- สอบเทียบได้ดีที่สุดที่ทางออกของเตาอบหรือหม้อทอด
- ต้องมีการสร้างช่วงค่าความชื้น/น้ำมัน เพื่อให้ได้กราฟสอบเทียบที่แม่นยำ (อาจมีของเสียเกิดขึ้นเล็กน้อย)
- ควรเก็บตัวอย่างอย่างน้อย 7 ตัวอย่าง ไปวิเคราะห์ในแล็บ
✅ การสอบเทียบ นอกสายการผลิต (สำรอง)
- ใช้ตัวอย่างที่มีช่วงความชื้นหรือน้ำมันประมาณ ±2% จากค่ากลาง
- หลังติดตั้ง ควร ปรับค่าศูนย์ (zero correction) บนสายการผลิตโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ
📍 ตำแหน่งการวัดและวัตถุประสงค์
ประเภทการวัด | ตำแหน่งที่เหมาะสม | วัตถุประสงค์ |
---|---|---|
น้ำมันและความชื้น | หลังเตาอบ/หม้อทอด (ห่าง ≥1 เมตร และสูง 6–10 นิ้ว) | ควบคุมกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ |
รสชาติและความชื้นสุดท้าย | ทางออกของเครื่องปรุงรส (seasoning drum) | ตรวจสอบคุณภาพก่อนบรรจุ |
ข้อมูลจาก NIR สามารถนำไปใช้ในการควบคุมกระบวนการอัตโนมัติหรือแมนนวล เพื่อป้องกันการผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
✅ สรุป
ในยุคที่ผู้บริโภคต้องการขนมขบเคี้ยวที่มีรสชาติเข้มข้นและสม่ำเสมอ เทคโนโลยี NIR คือเครื่องมือที่ตอบโจทย์การควบคุมคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อติดตั้งและสอบเทียบอย่างเหมาะสม เครื่อง NIR จะช่วยให้คุณ:
- ลดของเสีย
- เพิ่มคุณภาพสินค้า
- และผลิตสินค้าที่มีความสม่ำเสมอในทุกคำ
เพราะคุณภาพคือหัวใจของความสำเร็จ
ควบคุมรสชาติได้ในแบบเรียลไทม์ ด้วยเทคโนโลยี NIR